000
ปรึกษาเครื่องเสียง อจ. ไมตรี โทร 099-569-6459    
 
บอร์ดพูดคุย, ซื้อ-ขายเครื่องเสียง
>> audio-teams.com
>> noom-hifi.com
>> wijitboonchoo.com
>> hifi55.com  
>> sk-audiophile.com
>> htg2.net
นิตยสารเครื่องเสียง
>> what Hi-Fi? Thailand
>> The Wave
>> Audiophile-Videophile
>> gm2000.com
>> The Stereo
ร้านค้าเครื่องเสียง
>> Piyanas Electric
>> KS Sons Group
>> Conice (บ้านทวาทศิน)
>> อัศวโสภณ
>> munkonggadget.com
>> bkkaudio.com
 
ปรับขนาดตัวหนังสือ เช่น 15, 16, 18, 20, + + / ยกเลิกใส่ 0 :

หมวดหมู่ > รายงานบททดสอบ > เครื่องเสียงบ้าน > ELAC BS73 (Good and Can Be Great)
วันที่ : 27/11/2015
6,798 views

ELAC BS73 (Good and Can Be Great)

โดย...อ. ไมตรี ทรัพย์เอนกสันติ

ในอดีต ELAC จะใช้ดอกแบบแผ่นฟิล์ม JET แค่รุ่นแพงๆถึงแพงมากๆ เท่านั้น แต่หลายปีมานี้ ELAC พยายามยึดมั่นกับดอกแหลม JET ที่พัฒนาขึ้นให้ดีขึ้นเรื่อยๆ และไล่ลงมาสู่รุ่นกลางสูง จนภาพของลำโพง ELAC จากเยอรมันออกไปทาง “ดีแต่แพง (เอาเรื่อง)” ผมเองได้มีโอกาสทดสอบลำโพง ELAC มาเกือบ 10 รุ่น ทั้งแบบ PASSIVE และ ACTIVE Z (มีแอมป์ในตัว) ทุกรุ่นใช้ดอกแหลม JET ทั้งหมด และราคาก็ระดับ 5 หมื่นบาท/คู่ ขึ้นไปทั้งนั้น

ปัจจุบันเศรษฐกิจโลกย่ำแย่ติดต่อกันมา 3-4 ปีแล้ว นับวันมีแต่เลวร้ายลง ประเทศเยอรมัน (ที่ ELAC ถือกำเนิด) เองแม้จะมีเศรษฐกิจแข็งแกร่งที่สุดในยุโรป ถึงเวลานี้ก็ “ปาดเหงื่อ” ยิ่งต้องมาอุ้มเยอรมันตะวันออกด้วย ก็ยิ่งเหนื่อยหนัก จึงไม่น่าแปลกที่ ELAC จะกลับมาฟื้นอดีตที่เคยโด่งดังมาจากลำโพงดอกไดนามิคธรรมดา (เมื่อ 30 กว่าปีมาแล้ว) ซึ่งสมัยนั้นจำได้ว่า เขาก็ทำออกมาได้น่าฟังอย่างมาก ไม่แพ้ใครในวงการเช่นกัน

คำตอบสำหรับสถานการณ์ปัจจุบันของ ELAC ก็คือตระกูลประหยัด LINE 70 ซึ่งมีลำโพงวางหิ้ง 2 รุ่น (BS72, BS73), วางพื้น 2 รุ่น (FS77, FS78), ลำโพงเวฯเตอร์ CC71 ส่วนซับ ACTIVE คือ SUB2030 ทั้งหมด ดอกแหลมจะเป็นโดมไดนามิคปกติ กรวยทุ้ม, กลางล กลางทุ้ม กรวยโปลี่ทั้งหมด

BS73 เป็นลำโพงวางหิ้ง 2 ทาง ดอกแหลมเป็นโดม (สีดำ) ขนาด 25 มม. มีวงแม่เหล็กปะที่ตูดแม่เหล็ก (คงเผื่อกันสนามแม่เหล็กกนจอภาพทีวี) ดอกกลางทุ้มกรวย (สีดำน่าจะเป็นโปลี่โพไพลีน dust cab แบน ขอบยาง) ขนาด 150 มม. ระบบเบสแบบตู้เปิด มีรูระบายอากาศกลมขนาดประมาณ 3 นิ้วอยู่ด้านหลัง ขั้วลำโพงแบบซิงเกิ้ลไวร์ แผงวงจรแบ่งเสียงใช้ชิ้นส่วนขนาดเขื่อง ไม่ว่าขดลวด (L) แบบแกนเหล็กขนาดใหญ่สี่เหลี่ยม ขดลวด (L) กลมแกนอากาศ (ขนาดไม่เล็ก) ตัวเก็บประจุชั้นดี ตัวต้านทานเซรามิก มีตัวโปลี่สวิตส์ (กลมแบนสีน้ำตาล) คงไว้ป้องกันดอกแหลม สายลำโพงเหลือง-ดำเข้าดอกแหลม, แดงดำ เข้าดอกกลางทุ้ม บุภายในด้วยผ้าห่มกันร้อน (ไม่ได้ใช้ใยแก้วหรือใบโปลี่ สายลำโพงใช้ตัวยูเสียบเข้าดอกลำโพง แผงวงจรมีขนาดเกือบฝ่ามือ การตัดแบ่งเสียงเข้าดอกแหลมน่าจะ 12dB/octave, ตัดลงดอกกลางทุ้มก็น่าจะชันเท่ากัน แต่เดิมสายลำโพงที่ออกไปเข้าดอกแหลมจะแตะกับสายลำโพงที่มาจากแผงหลังตู้ลำโพงมาเข้าแผงแบ่งความถี่ (ตู้ซ้ายกับตู้ขวาเหมือนกัน) จึงจัดการแยกไม่ให้แตะกัน ขันน๊อตทั้ง 4 ที่ดอกลำโพงแหลม, ดอกกลางทุ้ม ของตู้ซ้ายกับตู้ขวา ให้แน่นเท่ากัน (มีผลต่อมิติและเสียง) หลังจาก “จัดการ” แล้ว เสียงนิ่งขึ้น, โฟกัสดีขึ้น, สงัดขึ้น. ม่านหมอกในวงหายไป, เสียงสดขึ้น

สเปคจากโรงงาน

ความถี่ตอบสนอง  45-28,000 Hz
จุดแบ่งความถี่   2.9 kHz
ความไว  86 dB/2.83 V./เมตร
ความต้านทาน 4 โอห์ม (2.8 โอห์มที่ 240 Hz)
แนะนำให้ใช้กับภาคขยาย  20-120 w./CH
รับกำลังขับได้ 50 w. ต่อเนื่อง
70 w./สวิง
ขนาดตู้ สูง x กว้าง x ลึก 285 x 170 x 250 มม. (สีดำ) หนัก 5.6 กิโลกรัม
การบรรจุ   1 กล่อง 1 คู่

การทดสอบ

จากเครื่องเล่นบลูเรย์ OPPO 105 (ปรับปรุงภาคจ่ายไฟโดย PERFECT POWER)  ออกสายเสียง MADARIGAL CZ-GEL2 (รุ่นบาลานท์) เข้าอินทริเกรทแอมป์ Mark Levinson No.383 (100 w.RMS/CH ที่ 8 โอห์ม, 200 w.RMS/CH ที่ 4 โอห์ม) ออกสายลำโพง FURUKAWA S-2 (เดินตามทิศ) หัว WBT หางปลา (เงิน) ด้านแอมป์, WBT บานาน่าล็อคได้ (ด้านลำโพง) ลำโพง BS73 เอาหน้ากากออก วางบนขาตั้ง TARGET 24 HJ เอียงลำโพงเข้ามา (TOE IN) ให้ได้ครบทั้งสุ้มเสียง และทรวดทรงเสียง ยกสายลำโพงสูงหนีพื้นห้อง (พรม/ปูน/โครงเหล็กในปูน) ด้วยตั้งกระดาษพิมพ์ดีด (ใหม่ ไม่มีใบห่อ) สูงจากพื้นห้อง 1 คืบ อีก 3 รีมวางทับด้านบนสายให้นิ่ง

สายไฟ AC ของ No.383 เปลี่ยนเป็นของ CHORD, สายไฟ AC ของ OPPO เอามาจาก No.383 สายภาพ HDMI ของ MONSTER HD2000 (ย้อนทิศ) เข้าจอ LCD TOSHIBA FULL HD /23 นิ้ว สายไฟ AC ต่อผ่านพ่วงกับสายไฟ CHORD สายไฟ AC ทั้ง 3 ชุดผ่านกล่องกรองไฟ PHD POWER STATION สายไฟเข้ากล่อง FURUKAWA CB-10 (3 เส้น, ทิศทางถูกต้อง) หัว WBT ทั้งตัวผู้, ตัวเมีย เสียบเข้าเต้าเสียบตัวเมีย MONITOR ACOUSTIC รุ่นสีเทา พร้อมแผงปิดที่กำแพง (มีผ้าคาร์บอนเบอร์ห่อเศษๆหลวมๆรอบ CB-10 ทั้ง 3 นี้) มีหัวปลั๊กตัวผู้กรองไฟของ PHD เสียบที่ขาออกของกล่องกรองไฟ 1 ตัว เสียบที่แผงไฟเข้าห้องเสียง 4 ตัว ในจุดอื่นๆที่เต้าเสียบกำแพงของห้องเสียงอีก 2 ตัว (2 จุด)

ในห้องมีผลึกอะมิทิสขนาด 4 กำปั้น 1 พุ่ม วางห่างจาก OPPO 105 ฟุตกว่า ที่พื้นห่างจากตัวผม 1 เมตร 1 กำปั้นกว่าๆ บน OPPO มีทั้งผลึกอะมิทิส (ครึ่งฝ่ามือ), อ๊อบซีเดียน 1 แท่ง, 1 ลูก (2 นิ้ว), แท่งควอตซ์ 3 แท่ง, แผ่นอาเกตกลม 2 ฝ่ามือ โดรงปิรามิดทำจากควอตซ์สูง 1 ศอก

ที่เต้าเสียบ MONITOR ACOUSTICS ที่กำแพงมีแท่งทัวมารีนขนาด (3x1 นิ้ว), ที่ขาออกของกล่องกรองไฟ PHD ขนาด (2x1.5 นิ้ว) ที่ขาเข้า OPPO (1.5x1 นิ้ว) หน้าผมที่พื้น 2x2 นิ้วอีก 1 แท่ง

กล่องตัวอย่างผลึก 12 ก้อนจิ๋วของ JUDY HALLS (พร้อมหนังสืออ่าน) 5 กล่อง (กลางห้อง 1, รอบๆตัวผมด้านหลังอีก 4 กล่อง) ผลึกพวกนี้ต้องเอียงไปมาหาทิศทางทั้งนั้น

ลำโพงซ้าย, ขวาห่างกัน 2 เมตร ห่างจากจุดนั่งฟัง 3.6 เมตร ห้องฟังประมาณ 3.85 x 9 x 2.5 เมตร พื้นปูพรม ผนังมีฟองน้ำเก็บเสียง SONEX (สีขาว, ทำในเยอรมัน) ห้องมีของพอควร (แผ่น, หนังสือ) ไม่ก้อง ปัดลมแอร์ (25 องศา C, ลม LOW) ยิงลงหลังลำโพง

ภายในห้องฟัง ไม่มี WIFI/LAN (นอกจากที่รั่วมาจากภายนอกประมาณ 6-7 คลื่น) ไม่มีรีโมทใด (นอกจากของ OPPO) แม้แต่รีโมทแอร์ (ตัวแสบเลย) ไม่มี PC2โน๊ตบุ๊ค เกมส์ มือถือ โทร.ไร้สาย iPad, Galaxy, นาฬิกาไฟฟ้า, นาฬิกาข้อมือ, การ์ดแม่เหล็กต่างๆในกระเป๋าเสื้อ

เวลาฟัง CD จะปิดจอ LCD, กด PURE AUDIO ที่  OPPO รีโมท, เช็ค Absolute Phase ทุกๆแผ่น (ทุกๆเรื่องหนัง) เวลาดูหนังเลือกระบบเสียง 2CH จาก OPPO เป็น LT, RT ปรับดัง-ค่อยที่รีโมท OPPO ด้วย (ฟังเพลง 87-92, ดูหนัง 94-99) มีแผ่นวางทับบนแผ่น CD, DVD, บลูเรย์ ทุกครั้งที่เล่น เปิดเพลงเบินอินลำโพงบวกตอนดูหนัง (ยังไม่วิจารณ์) รวมทั้งหมด 3 วัน 48 ชั่วโมง ซึ่งน่าจะพอเพียง
ฟัง CD (ภายใต้เงื่อนไข ผมแยกสายลำโพงภายในดังกล่าวแล้ว)

BS73 ให้เสียงไปทางสว่างสดพอประมาณ (ส่วนใหญ่ได้จากดอกแหลม) ยิ่งเร่งดัง ยิ่งกลมกลืน น่าฟัง (คือมันช่วยเรื่อง “จุดกำเนิดเสียงเดียวกัน” หรือ POINT SOURCE ได้มาก รวมทั้ง ยิ่งนั่งฟังห่างยิ่งดี) เนื่องจากเขาวางดอกแหลมไว้ด้านบนและค่อนข้างห่างจากดออกกลางทุ้ม ซึ่งจะทำให้การกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกันของ 2 ดอกยากกว่าการวางใกล้ (จึงต้องเร่งดัง, ฟังห่าง) แต่ก็จะมีข้อดีคือ ลดผลการกวนกันเองระหว่างดอกลำโพงแหลมกับดอกกลางทุ้ม (เรียก Michrophonic) ที่จะลดกวนรายละเอียดหยุยมหยิม (Low Level Detail) ซึ่งจะกลบบังผิวเสียง (Texture)

จากแผ่น Wood ของ Brian Broomberg เสียงเทดับเบิ้ลเบสในช่วงเปิดของเพลง 1 นาทึ่ง เป็นเส้นสาย มีน้ำหนัก ลงทุ้มได้ลึกไม่เลวจริงๆ ยิ่งเมื่อตามด้วยเสียงกลองชุด/ฉาบ ให้รายละเอียดดี เสียงเปียโน (แบบอัพไรท์) ฟังสดฉ่ำ มีรายละเอียดเส้นสายดีมาก ฟังไฟๆดับเบิ้ลเบสลงอิ่มลึก แน่น กระชับดีมาก มันส์จริงๆ ยังกับไปนั่งฟังการแสดงสดกันเลย

อย่างไรก็ตาม BS73 ไม่ได้จงใจเป่าทุ้มให้เว่อร์เกินจริง พิสูจน์ได้จากเพลง 2 (อารีรัง) แผ่น The Greatest Alto Female VOL.1 (Top Music) เสียงตีกลองใหญ่ ตัวกลองมิได้ใหญ่โตมโหฬารเกินจริง แต่ก็รับรู้ได้ว่าไม่ใช่กลองเล็กๆ หน้ากลองตึงแน่นเปรี๊ยะ (เอามากๆ) น่าฟังมาก ในแผ่นเดียวกันนี้ บอกได้ว่า BS73 ให้เสียงร้องได้มีชีวิตชีวา จีบปากจีบคอได้ดี อาจไม่คมชัดโปร่งทะลุจะแจ้งมากนัก แต่ก็ยังคงความน่าฟังที่ดี ปลายเสียงกรุ้งกริ้งระยิบระยับใช้ได้ แสดงว่า ดอกแหลมไปได้ถึง 27 kHz เป็นอย่างน้อย (สเปคระบุ 28 kHz) อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ได้ถูกออกแบบให้เสียงหวานประเล้าประโลมอย่างลำโพงเพื่อการฟังเพลงโดยเฉพพาะ BS73 ถูกตั้งใจให้ฟังเสียงหนังได้มันส์ด้วย ไม่ใช่หวานไปหมดจนน่าอึดอัด

แผ่น RHYTHM BASKET, A Tasket, A Tisket, A child’s ของ Brent Lewis บอกได้ว่า BS73 ให้เสียงได้กลางๆ ไม่โอนเอนไปทางไหน ทุกๆอย่างดูพองาม ที่ยังคงคุณภาพของ ELAC คือ เสียงที่ลื่นไหล รายรื่น ให้ฮาร์โมนิกส์ของแต่ละเสียงได้ค่อนข้างดีสำหรับลำโพงระดับนี้ ให้เวทีเสียงได้กว้าง หลุดตู้ ด้านลึกไม่เลว สูง-ต่ำพอใช้ (เพลง 10 ทำได้สูงเหนือลำโพงเกือบถึงเพดาน แต่ก็เป็นได้แค่ช่วงสั้นๆ ไม่ได้ตลอดครึ่งหลังของเพลง) ไม่โอบมาซ้ายหลังขวาหลังได้ (เพลง 6 นาทีที่ 4 เป็นต้นไป) ให้ความกังวานพอเพียง ไดนามิคพอประมาณ รายละเอียดดี แต่ต้องตั้งใจฟังสักหน่อย ให้เสียงแหลมที่ดี กลางทุ้มที่ดี คือฟังออกว่า ใช้ดอกลำโพง, ชิ้นส่วนวงจรแบ่งเสียง ที่ดีได้มาตรญานไฮไฟจริงๆ แต่ทรวดทรง (ยังไม่ 3D) เท่าที่ควร ทำให้โฟกัสเสียง, มิติเสียง ยังไม่ดีเท่าที่ควร (ทั้งๆที่มีแววอย่างมาก)

พูดง่ายๆว่า เป็นลำโพงน่าซื้อไม่ว่าฟังเพลงหรือดุหนัง แต่ควรอย่างยิ่งที่จะตัดหัสเสียบตัวยูของสายลำโพงภายในออก และใช้บัดกรีเข้าที่ขาขั้วของดอกลำโพงเลย (ควรให้ผู้เชี่ยวชาญทำเท่านั้น) ผมมั่นใจว่า มันจะดีขึ้นแบบว่า คนละงานเลย ยิ่งถ้าฟังทดสอบทิศทางของอุปกรณ์แต่ละชิ้นบนแผงวงจรได้ด้วย หรือเปลี่ยนสายลำโพง (รุ้ทิศทาง) แค่ราคา 200-350 บาท/เมตร ผมว่า BS73 จะไปโลดอย่างที่ใครก็คาดไม่ถึง ในการดูหนัง (ดูแบบ 2 CH สเตอริโอ LT, RT)  จริงๆ ตอนเบินอิน ผมเอา BS73 มาดูหนังมากกว่าฟังเพลงกว่าครึ่ง เพราะเสียงหนังตูมตามดี จะเบินอินดอกลำโพงได้เร็วกว่าเพลงมาก

ผมดูหนังอยู่หลายเรื่อง (ดูไปก็จูนโน่นนี่ไปในชุดทดสอบปกติของผม) เช่นเรื่อง LUCY, EXODUS, THE LEGEND OF 1900, TARZAN, PROMITEUS (3 ลูกจ้างวางแผนฆ่าเจ้านายจอมโหดเหี้ย(ม) (ผมจำชื่ออังกฤษไม่ได้), ตี้เหริยเจี้ยตอนล่าสุด, ฯลฯ

BS73 ให้เสียงพูดได้ชัดเจน เป็นธรรมชาติดีมาก รับรู้อารมณ์ของผู้พูดได้ดีมาก ตรงกับภาพที่ปรากฏเปะๆ ให้ความถี่ต่ำได้ระดับสะเทือนห้อง (ตามแต่ละเรื่องแต่ละฉาก) บรรยากาศห่อหุ้ม น้องๆเซอราวด์ (แต่ยังไม่ถึงระดับเซอราวด์แบบลำโพงบางคู่) สูง-ต่ำพอได้ เสียงหลุดตู้ได้ดี การสวิงดัง-ค่อย โอเค แม้ไม่เต็มที่สุดๆ

สรุปคือ ดูหนังได้เพลิน, มันส์, ได้อารมณ์, ได้บรรยากาศ

สรุปรวม BS73 เป็นลำโพงที่ดีและสามารถทำให้ “ยิ่งใหญ่” ได้ไม่ยาก แทบไม่มีกลิ่นอายของ ELAC (ที่ดอกลำโพงโลหะ แหลม JET) แต่ก็ถือว่า เสียงเข้าขั้น เท่าที่ดอกแบบนี้ ราคาขนาดนี้จะให้ได้ และ ELAC ก็ทำออกมาได้ดี ไม่เสียชื่อด้วย

 

www.maitreeav.com

www.maitreeav.com
สำนักงาน : 313/129 ซ. เคหะร่มเกล้า 64 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ 10520
โทร. 081-5500269 , 099-569-6459